กรมอนามัย พร้อมให้ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์สำหรับคุณ
การอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านการวิจัยและนวัตกรรม ครั้งที่ 1
ระหว่างวันที่ 17 – 19 เมษายน 2565
ณ โรงแรมทีเค. พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร
และผ่านระบบการประชุมทางไกล (Video Conference)
สำนักคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จัดการอบรมการอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านการวิจัยและนวัตกรรม ครั้งที่ 1 โดยมี นพ.สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย เป็นประธานการอบรมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ กรมอนามัยในฐานะองค์กรหลักของประเทศในการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมเพื่อให้คนไทยมีสุขภาพดี มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายโดยกำหนดให้กรมอนามัยมีการศึกษา วิจัย และพัฒนาองค์ความรู้และเทคโนโลยีการบริการส่งเสริมสุขภาพ การจัดการปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ และการจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อมต่อสุขภาพ รวมทั้งการประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ ดังนั้นงานวิจัยจึงเป็นรากฐานที่สำคัญของกรมอนามัยที่ต้องดำเนินการพัฒนาองค์ความรู้และเทคโนโลยีด้านการส่งเสริมสุขภาพและการจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อม โดยการนำผลการวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ในระดับเชิงนโยบาย เชิงวิชาการ เชิงพื้นที่ เชิงสาธารณะ และเชิงพาณิชย์ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีสุขภาพดี อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาพดี
จึงต้องมีการพัฒนาระบบงานวิชาการให้ทุกหน่วยงานเรียนรู้พัฒนางาน พัฒนาคนในการทำวิจัย โดยการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการมีการกำหนดจัดต่อเนื่อง จำนวน 5 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 เพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจในการกำหนดหัวข้อการวิจัยและทบทวนวรรณกรรม, ครั้งที่ 2 เพื่อติดตามและให้ข้อแนะนำเกี่ยวกับการกำหนดหัวข้อการวิจัยและการทบทวนวรรณกรรม, ครั้งที่ 3 เพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจในการสร้างเครื่องมือให้เหมาะสมกับการทำวิจัย, ครั้งที่ 4 และครั้งที่ 5 เพื่อติดตามและให้ข้อแนะนำเกี่ยวกับเครื่องมือการวิจัย
การอบรมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก รศ.ดร.กนิษฐา จำรูญสวัสดิ์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล มาถ่ายทอดความรู้เรื่องหลักการและขั้นตอนการทำวิจัย, การกำหนดปัญหาวิจัยและการเลือกหัวข้อวิจัย, ที่มาและความสำคัญของปัญหา, วัตถุประสงค์และสมมติฐานการวิจัย, ตัวแปรและระดับการวัด, นิยามและกรอบแนวคิดการวิจัย, การทบทวนวรรณกรรม, การสังเคราะห์งานวิจัย รวมทั้งรูปแบบการวิจัย
ซึ่งการอบรมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมอบรมแบบ onsite จำนวน 60 คน และผู้เข้าร่วมอบรมแบบ Online จำนวน 150 คน